วันจันทร์, มีนาคม 07, 2548

รู

รู ถ้าได้ฟัง คุณคิดถึงอะไรเป็นอันดับแรก(อย่าบอกว่ารูตูด)
รู ลักษณะของมัน แน่นอนทุกคนต้องคิดว่ามัน กลม ทั้งๆที่รูเหลี่ยมก็มี
รู ต้องเป็นช่อง กลวง ใช่ไหม มีอากาศ(space)เป็นส่วนประกอบ
รู ตอนนี้ชอบรูมาก รูทำให้สะดวกในการเดินทาง มาลงรูกันเถอะ
กร๊ากก ตามลิ้งไปเลย MRT

วันอาทิตย์, กุมภาพันธ์ 20, 2548

แจกฟรี!

มีใครไม่ชอบของฟรีบ้าง น้อยคนนักที่จะรังเกียจของฟรี คงต้องถามกันละสิว่า ของฟรีที่ว่านั้นคืออะไร อืม...ผมไม่ได้มาแจกของฟรีหรอกนะ และก็ไม่ได้มีความสามารถใดๆ จะหามาให้ทุกคนได้ แต่ที่หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดก็เพราะว่า อยากจะถามทุกคนเกี่ยวกับ ของฟรีตามที่แห่งนี้ บันไดทางขึ้นสะพานลอย ทางเข้าห้าง บันไดเลื่อน ทางเข้าสถานที่ที่สำคัญ ที่มักมีคนมายืนแจกของฟรี ที่ผมไม่ต้องการสักเท่าไหร่ พวกกระดาษทั้งหลายแหล่ ใบปลิวรับสมัครงาน สมุดดาวน์โหลดริงโทน โฆษณาสินค้า ลดน้ำหนัก เสริมเต้า ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศที่ทำที่บ้าน ฯลฯ ที่ทุกคนอาจจะเคยเจอ คิดว่าคงเจอกันบ้างละน่า คงไม่มีใครเป็นพวกป่าเถื่อนชอบข้ามถนนแบบกูใคร่ข้ามตรงนี้ทุกครั้งหรอกใช่ไหม ใครชอบบ้างของฟรีที่ว่า สำหรับผมแล้ว กูเบื่อมาก ถ้าคิดแบบผู้ดีคงหนีไม่พ้นความคิดถึงสิ่งแวดล้อม ที่กระดาษไม่รู้กี่ตันต่อกี่ตันถูกใช้ไปโดยไม่ค่อยคุ้มค่าสักเท่าไหร่ หรือคิดแบบคนปรกติก็คือกูขี้เกียจรับ รับไปปุ๊บปั๊บ ถังขยะด้านหน้าบนทางที่จะเดินไปคงจะถูกหมายปองเป็นที่ทิ้งของสิ่งที่รับมา อ่านยังไม่ได้อ่านเลยสักกระแอะ คร้านจะไม่รับก็เกรงใจ มายืนตากแดดแจกอยู่ตั้งนานไม่มีใครแยแส น่าสงสาร ที่ยังเหลือไม่ได้แจกก็พิงอยู่รอบขา ชีวิตเรามันรันทด บางทีไม่อยากรับเพราะมันทำหน้าเหมือนจะกินตับ "เอาสิมึง รับสิ ไม่รับนะกูจะฆ่าล้างโคตร" ในใจเขาคงคิดเช่นนั้น เฮ้อวงจรอุบาทว์นี่ เมื่อไหร่จะจบเสียที และ ยัง มี อีก ที่ นึง ที่ ไม่งาม มาก คือ ตรงสะพานลอยอนุสาวรีย์ ขอบอกว่ามีคนโดนหลอกหลายคน คือจะมีเจ๊สองคน มายืนแจกรูปสักอย่าง ยืนดักแบบสองด้านขนาบซ้ายขวา ไม่รู้ว่าเจ๊จะมาจากมูลนิธิที่อ้างจริงหรือเปล่า แต่ทำแบบนี้ไม่ดีเลย หากผู้ใดหลวมตัวหยิบ เจ๊ก็จะเดินติดหนึบเป็นตังเม แล้วบอกว่าไอ้ที่แจกน่ะ ขาย นะ ขาย เพื่อทำ....สักอย่าง ถ้าหากเจ๊สองคนนั้นไม่ได้เสแสร้งจริงก็ขออภัย เพราะทำแบบนี้มันรับไม่ได้จริงๆว่ะ ที่กล่าวถึงก็ไม่ได้โดนหรอกนะ พอดีสมัยก่อนหูตากว้างไกล เหลือบไปเห็นคนโดนเลยไหวตัวทัน ทำไมเจ๊ไม่ไปทำงานอย่างอื่นน้า เออเสือกไปใช่เรื่อง จบเรื่องขอฟรีแค่ดีนี้กว่า ของฟรีคงไม่มีในโลกมั้ง

วันเสาร์, กุมภาพันธ์ 12, 2548

แตงโมปีศาจ

เคยกินแตงโมกันไหม ถามไปได้เพราะคงไม่มีใครไม่เคย หรือถ้าไม่เคยก็คงเป็นที่ไม่ชอบหรือแพ้แตงโม ลักษณะของแตงโมคือเปลือกสีเขียว ข้างในสีแดงหรือสีเหลือง และมีเมล็ดสีขาวหรือดำ หรือว่าใครเข้าใจเป็นอย่างอื่น เออ ลืมอีกอย่าง แตงโมนี่ส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นลูกกลมๆ หนักๆเพราะข้างในเต็มไปด้วยน้ำ แตงโม สำหรับผมแล้วจัดเป็นผลไม้อันดับต้นๆเลยที่ชอบ ก็ว่าได้ แต่ที่ตั้งชื่อหัวข้อนี้มาก็เพราะ เวลากินแตงโมแล้วรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยกันบ้างไหม เพราะรู้สึกว่ามันแดงมากไปจนเวลาน้ำของมันเลอะ มันจะทำสีแดงไปทั่ว น่ากลัวจัด ไม่รู้ว่าคนที่ปลูกมาให้เราได้ซื้อกัน ไว้ใจได้มากแค่ไหน ฉีดอะไรเข้าไปบ้างหว่า มีข่าวช่วงนึงที่บอกว่ากินแตงโมแล้วจะทำให้เจี้ยวหด อันนี้ก็น่ากลัวเพราะว่า ขอสารภาพตามตรง เจี้ยวของข้าพเจ้าก็ไม่ได้มีขนาดอันใหญ่โตจนสามารถอวดโชว์ ว่าของตนใหญ่ หรือสามารถตัดแบ่งให้ใครไปแล้วยังคงความน่าภูมิใจไว้ได้ และก็อย่าคิดกันไปเองว่าของข้าพเจ้านี่เล็ก ไม่เอาไม่ดี ถ้าหากแด๊กแตงโมแล้วทำให้หดจริงก็น่ากลัวอยู่ แต่ช่วงนั้นก็ไม่ได้กลัวหัวหดจนอดแดกแตงโม เพราะว่าเป็นของชอบ เลยไม่ได้แคร์ แต่ข่าวก็ซาลงไปจนตอนนี้ไม่รู้ว่า ยังมีใครทำให้แตงโมที่ข้าพเจ้าชอบ เป็นแตงโมปีศาจอยู่หรือเปล่า เฮ้อปลูกเองดีไหมกว่า รอกูมีสวนก่อนเห้อ

ไหนๆก็พูดถึงแตงโมแล้ว ลองเข้าไปอ่านดู วิธีการปลูกแตงโม credit = สำนักบริการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ครับ

วันพุธ, กุมภาพันธ์ 09, 2548

บ้าเห่อ

บ้าเห่อ = อากับ กริยาอย่างหนึ่งของมนุษย์ เวลามีอะไรที่เรียกว่าเป็นสิ่งใหม่ เข้ามาในชีวิตแล้วรู้สึกพึงพอใจ จะให้ความสำคัญกับสิ่งนั้นเป็นพิเศษ จนกระทั่งถึงเวลาหนึ่งเมื่อความเบื่อเข้าครอบงำแล้ว ก็จะเลิกให้ความสำคัญกับสิ่งนั้นไปโดยปริยาย
สำหรับผมแล้วนิสัยเสียอย่างหนึ่งของผมน่ะครับ คือ บ้าเห่อ นี่แหละ จะมาเป็นพักๆ บอกไม่ได้ว่าตัวเองเห่อ หรือเปล่า แต่จะวัดได้หลังจากความเบื่อเข้าครอบงำเราแล้ว จึงสามารถบอกได้ว่าเราบ้าเห่อ เป็นนิสัยที่แก้ไม่หาย ใครมียา หรือวิธีรักษาโปรดแจ้งด้วยนะครับ

แต่เดี๋ยวก่อน....อย่าเพิ่งเหมาว่าผมจะบ้าเห่อกับทุกอย่าง หรือตลอดเวลา เพราะบางอย่างผมก็ชอบตลอด พึงพอใจตลอด ไม่ได้บ้าเป็นพักๆ อาธิเช่น การดูภาพยนต์ หรือ การอ่านหนังสือนิยายต่างๆ ก็ไม่ได้เห่อเลย หรือเรียกว่า เห่อตลอดปีตลอดชาติ ก็ไม่ผิด

เฮ้อ เหอ เหอ

วันอังคาร, มกราคม 25, 2548

which char r u?

ไปแอบเจอมา ก็เลยเอามาฝาก ลองไปทดสอบกันดูนะ สำหรับข้าพเจ้า เป็น kakashi แล้วท่านๆ ล่ะ เป็นใคร
naruto
Which Naruto Character Are You?
Test by naruto - kun.com

วันพฤหัสบดี, มกราคม 06, 2548

การยืนยันตนว่าเป็นคนไทย

ผมเป็นคนๆหนึ่งที่เกิดที่ลำพูน ประเทศไทย พ่อ-แม่ สัญชาติไืทย เชื้อชาติไทย ศาสนาพุทธ ผมย่อมเป็นคนไทยใช่ไหมครับ แต่ว่าการยืนยันตนว่าเป็นคนไทยเวลาอายุครบ 15 ปุ๊บก็ต้องไปทำบัตรบัตรนึงซึ่งไม่น่าจำทำยากเท่าไหร่ แค่เตรียมหลักฐานไปเล็กน้อย และก็ไปทำน่าจะได้แล้วใช่ไหม เรื่องมันมีอยู่ว่า ผมทำบัตรหายครับ และก็ตอนนี้ประเทศเรา ไปทำบัตรที่จังหวัดไหนก็ได้แล้วใช่ไหม ไม่ต้องกลับไปทำที่ภูมิลำเนาเหมือนแต่ก่อน ผมก็จัดการเลยครับไปทำที่

1. สำนักงานเขตลาดกระบังครับ นั่งทำตามลำดับขั้นตอน ตั้งแต่แจ้งความ คัดสำเนา ยันเข้าขั้นตอนสุดท้ายก่อนจะไปถ่ายรูปทำบัตร และแล้วน้องคอมพิวเตอร์ดาต้าเบสที่น่ารักก็ขึ้นหน้าต่างเล็กๆ มีข้อความบอกว่าผมไม่สามารถทำต่อได้ เพราะไม่ได้อยู่ในดาต้าเบส....ความเงียบเข้าครอบงำครับ ที่ทำมาทั้งหมด 3 ชั่วโมง ไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง จบการไปร้องขอการทำบัตรครั้งที่ 1

2. ที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่ตำบลช้างเผือก อันนี้ไปไกลจาก กทม. หน่อยเพราะไปเยี่ยมเพื่อนเก่าที่เชียงใหม่ พอดีว่าเพื่อนอีกคนว่างครับ จะไปส่งเพื่อไปทำบัตร ก็นั่งรถกันเข้าไป ที่นี่ดีนิดนึงครับ เข้าไปปุ๊บ ประชาสัมพันธ์บอกน้องทำไม่ได้นะคะ เพราะไม่มีคนในพื้นที่นี้มาคำประกันค่ะ...พอดีเพื่อนที่พาไปไม่ได้อยู่ตำบลนี้ จบการไปร้องขอการทำบัตรครั้งที่ 2 อย่างรวดเร็ว

3. สำนักงานเขตบางรัก(สาขาสีลม) ที่นี่เห็นเพื่อนของเพื่อนบอกว่าทำง่าย สะดวกเพราะเป็นสำนักงานย่อย คนไม่มาก ก็นั่งรถไปทำครับ พอดีจะไปหาเพื่อนที่สยาม นั่งรถไฟฟ้าไปนิดก็ได้ทำแระ ก็เลยนั่งไปแบบเย็นๆ ดูนกดูวิว แปบนึงถึง ก็เดินขึ้นตึกไป สงสัยคนน้อยจริงเพราะที่นี่มีแต่คนที่ทำงาน เดินไปหน้ากระจกใสๆ และก็มีข้อความเขียนติดว่า "รับเฉพาะการทำบัตรใหม่ และบัตรหมดอายุเท่านั้น บัตรหายไม่รับทำ........อึ้งแดกไป 2 วิ แระก็จบการไปร้องขอการทำบัตรครั้งที่ 3 ตั้งแต่ยังไม่ได้เข้าไปคุยสักแอะกับเจ้าหน้าที่ครับ

4. สำนักงานเขตบางกะปิ พอดีเพื่อนผมอยากให้ผมได้ไปเที่ยวรัชดากันบ้าง เพราะไม่ได้ไปมานานแล้ว และที่นี่ตรวจบัตรเข้ม ผมเลยวานเพื่อนคนนึงซึ่งอยู่เขตบางกะปิ(คุณน้องแวนด้าครับ) ช่วยอนุเคราะห์ผมด้วย เขาก็บอกว่าง่ายมากที่นี่เคยไปทำแป๊บนึงก็ นั่งรถไปครับจะเข้าไปทำ ก็ไปที่เค้าเตอร์ตัวแรกสุดเพื่อตรวจเอกสารครับ ปรากฏว่าที่นี่ต้องมีเอกสารที่ออกจากราชการ ยืนยันว่าผมอยู่ในไทย ประมาณทรานสคริป หรือใบขับขี่ไรงี้ ไอ้ผมก็ไม่มีใบขับขี่ และก็ไม่ได้เอาทรานสคริิปมา เพราะที่แล้วมาสำนักงานอื่น ไม่ได้เรียกร้องหลักฐานชนิดนี้ ก็เป็นอันว่าจบการไปร้องขอการทำบัตรครั้งที่ 4 ด้วยความกังขา ผิดหวัง และแกมๆความเกรงใจเพื่อนนิดๆ อุตสาห์รบกวนมันแหกขี้ตามาก็ไม่ได้ทำ

5. สำนักงานเขตบางกะปิ(อีกครั้ง)คราวนี้พร้อมทั้งหลักฐาน และรบกวนเพื่อนคนเดิม(แวนด้าอีกครั้ง) นัดกันไปทำตอนเช้าๆ บ่ายกะเข้ามานั่งเรียนต่อ คราวนี้ไปแบบมาดมั่น กูพร้อมทุกอย่างนี่นา และแล้วก็เข้าไปที่เค้าเตอร์ตัวเดิมพนักงานหน้าเดิมเพื่อ ตรวจเอกสารครับ แต่ว่ามีป้ายตั้งโต๊ะเล็กๆ บนเค้าเตอร์ที่ครั้งก่อนไม่มีแน่ๆ มาตั้งอยู่ และมีข้อความประมาณว่า"ถ้าเป็นคนต่างจังหวัดและบัตรหายที่นี่รับทำ 50 คนแรกเท่านั้น" กูจะบร้า ทำไมจำกัดสิทธิ์กันอย่างงี้วะ ขอให้กูเป็น 1 ใน 50 คนนั้นเถิดเวลานี้ยังเป็นช่วงเช้าคงไม่เกินหรอกม้าง "พี่ครับบอกซิครับว่ายังไม่หมดเขตให้คนบ้านนอกทำ" "น้องมาทำพรุ่งนี้นะ วันนี้ครบแล้ว"..........แสดดดดดดดด สาดดดดดด กุจาบร้า กุอยากเป็นคนลาวให้สิ้นเรื่อง ็เป็นอันว่าจบการไปร้องขอการทำบัตรครั้งที่ 5 ครั้งปัจจุบันเพียงเท่านี้

เพื่อนๆครับ ถ้าอ่านแล้ว จะอนุเคราะห์ช่วยผมอย่างไรก็ได้เลยนะครับ ตามสะดวกผมยินดีรับทุกความช่วยเหลือ

วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 30, 2547

TSUNAMI

น่ากัวเจงๆ คิดๆไปแล้วก็น่าเสียใจแทนคนที่ต้องพัดพรากจากกัน แต่ก็จาเอาผิดกะใครล่ะ เพราะว่ามันเป็นภัยธรรมชาติ ถ้าเตือนกันได้ก่อนก็คงดี เฮ้อ เราก็เกือบไปเลยนะ เพราะว่าเคยนัดกะเพื่อนไว้ พวกเฮีย1 พี่แว พี่นุช ไอ้เต๋อ ว่าจะไปเที่ยวระนอง แถวน้านเฮีย1 แต่ก็มีอันต้องยกเลิกไปเพราะว่ามีเหตุขัดข้องบางประการ วันก่อนเจอพวกไอ้เต๋อ ก็คุยกันว่า ถ้าเราไปคงไปช่วงที่เกิดพอดี และอาจจะนอนตาย(เพราะเมื่อคืนก้งหนัก)ตามชายหาด คิดไปแล้วก็หวิวน่าดู แบบว่าเกือบได้ประสบการณ์เฉียดตายซะแล้ว บริ๋ย ดีนะที่ตอนแม่โทรมาถามว่าอยู่ที่ไหน ถ้าตอบไปว่าระนองแม่คงเป็นห่วงแย่

วันอังคาร, ธันวาคม 21, 2547

ใคร อะไร เมื่อไหร่ ที่ไหน ทำไม

ใคร = คำถามที่เกี่ยวกับบุคคลที่เราไม่รู้จัก เพียงเพราะว่าเราอยากที่จะรู้จักเขา แต่เด๋วนี้จะกลายเป็นคำที่ไม่สุภาพ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าไม่สุภาพตรงไหน

อะไร = คำถามน่ารักๆ ที่แสดงความไม่รู้ออกมา ถ้าเราไม่รู้แสดงว่าเราโง่ไหม หรือเพียงไม่รู้นี่คือเราผิดใช่ไหม ถ้าเพียงแค่ทำให้เรากระจ่าง จะได้รู้ว่าคืออะไร จะได้ไม่โง่ต่อไป เป็นการทำทานอย่างหนึ่ง นี่คนที่รู้จะทำทานสักครั้งนี่มันจะตายไหม

เมื่อไหร่ = เป็นคำถามที่เกี่ยวข้องกับเวลา เวลานั้นมีจำกัด แสดงว่าคำถามนี้จะต้องมีจุดของเวลาที่แน่นอน(คำตอบต้องมีแน่นอน) แต่คนตอบมักจะตอบว่า "ไม่แน่" (กรรมของตู เราว่าเราถามคำถามถูกแล้วนะ)

ที่ไหน = เป็นคำถามที่เราจะเจอบ่อยสุด บ่งบอกถึงตำแหน่งของเรา อยากให้โลกนี้บอกตำแหน่งเป็นพิกัดทาง ภูมิศาสตร์ จะได้ไหม จะได้มีตำแหน่งนั้น เพียงแค่ตำแหน่งเดียว จะได้ไม่งงกับชื่อที่ซ้ำกันของสถานที่ แต่ว่าคงเข้าใจยากน่าดู
หากทำได้คงเจ๋งน่าดู เวลาจะไปหากันก็ trace เส้นทางเอา สะใจดี

ทำไม = คำถามที่ต้องการคำอธิบาย มักจะได้คำตอบที่ยาว และวกวนไปมา หรืออธิบายไม่ตรง เรามักจะเป็คนที่อธิบายคนไม่ค่อยเข้าใจเช่นกัน อยากรู้วิธีจัง แต่เราว่าการตอบคำถาม ทำไม มักจะเป็นคำถามที่เป็น symmetric คือน่าจะขึ้นกับทั้งคนถาม และคนตอบ ว่าจะมีความเข้าใจในคำตอบแค่ไหน และคนตอบจะตอบได้กระจ่ายแค่ไหน

ไม่มีวิธีสื่อสารทางด้านอื่นแล้วใช่ไหมที่เหมาะสมกว่านี้
อ้อ>>>>>> เราว่าสื่อสารด้วยวิธี "อย่างไร" อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดก็ได้มั้ง ถึงแม้จะเป็นวิธีที่ใช้เวลานาน แต่ทำให้กระจ่างได้แน่ๆ โอว ดี จริง

วันจันทร์, ธันวาคม 13, 2547

กับเรื่องราวอันไร้สาระของชีวิต

วัน 1 1 ที่ผ่านไปกันเวลา 24 ชั่วโมง มีอะไรที่ทำแล้วเรียกว่าเรื่องมีสาระบ้าง นอน หรือว่าทำการบ้าน หรือว่าจะเป็นเรียน ดูช่างเป็นสิ่งไร้สาระหมด อ่านหนังสือ เรียกว่ามีสาระหรือเปล่า คุณค่าของข่าวสารวัดกันด้วยอะไร หรือเพียงวัดกันด้วย ค่านิยมของสังคม หรือว่าจะเป็นบรรทัดฐานที่ตนสร้างขึ้นเพื่อตัวเอง หรือสังคมก็ตาม หากจะวัดกันด้วยองค์ความรู้ที่เราได้รับ ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง แค่เดิน กิน หรือคุยกะคนๆหนึ่ง แล้วได้ความรู้กลับมาเพียงเล็กน้อย ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่มีสาระแล้วใช่หรือไม่ งั้นเราจักขวนขวายไปมากมายเพื่ออะไร หรือเพียงแค่อยากจะเพื่อบันทึก ลงในไขมันอิ่มตัวที่เรียงตัวเป็นรอยหยักในกะโหลก แค่นั้นดอกหรือ ว้า....กลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายไปซะละ พอๆ เลิกแค่นี้ดีกว่า

วันพุธ, พฤศจิกายน 24, 2547

if (age <= 18) then

เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมาก เรื่องการออกกฎหมายมาให้เด็กที่ถือว่าเป็นเยาวชน อายุไม่เกิน 18 ปี ห้ามทำโน่น ทำนี่อาทิ เล่นเกมออนไลน์ ไม่เกินช่วงเวลานั้นนี้ หรือไม่เกินวันละเท่านั้นเท่านี้ ไม่รู้นะความคิดผม เห็นว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ยังไม่น่าพอใจเท่าไหร่ คิดเล่นๆ ว่าถ้าวันนี้เราอายุ 17 ปีกับอีก 364 วัน คือวันพรุ่งนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของเรา วันนี้เราเล่นเกมออนไลน์ หรือ ทำโน่น ทำนี่ได้น้อยๆ ตามกฎ แต่วันพรุ่งนี้เราทำได้ตามที่ต้องการ อืมมันดูไม่เมกเซนส์เท่าไหร่ ไม่เห็นว่าอายุเพิ่มขึ้น 1 ปีจะทำให้คนเรามีวุฒิภาวะเพิ่มขึ้นสักเท่าไหร่ แต่ก็ได้แค่คิดเพราะเลยมาแระ แต่อาจจะกระทบ ส่งผลให้อาชีพมอมเมาเยาวชนของเราในภายภาคหน้า มีเรื่องจิปาถะมากมายที่ต้องทำ เฮ้อ คิดแล้วกลุ้ม